วันจันทร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2552

Demo Final Fantasy XIII

และแล้ววันที่เดโมของเกมสุดยอดอลังการที่ทุกคนรอคอย Final Fantasy XIII กำลังจะมาถึง ในเวลาอีกเพียงแค่ 1 สัปดาห์ เท่านั้นทุกคนก็จะได้ยลโฉมหน้าเกมนี้กันแล้ว ด้วยวาระอันดีนี้ ทางนิตยสาร Famitsu จึงได้มีโอกาสไปสัมภาษณ์อัพเดตข้อมูลใหม่เอี่ยมทั้งหมดกับไดเร็คเตอร์ Motomu Toriyama ครับ

ทุกรายละเอียดต่อไปนี้ เป็นข้อมูลใหม่เกือบทั้งหมดซึ่งยังไม่เคยเปิดเผยที่ใดมาก่อน แต่ก่อนอื่นเรามาเริ่มที่เดโมก่อนครับ เดโมตัวนี้จะถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกผู้เล่นจะได้บังคับตัวละคร Lightning ซึ่งเข้าร่วมการต่อสู้ครั้งนี้ด้วยอิทธิพลจากตัวละคร Sazh ในอีกส่วนที่เหลือ เราจะได้บังคับตัวละคร Snow ซึ่งเข้าร่วมการต่อสู้ครั้งนี้กับกลุ่ม Nora โดยตัวละคร Vanille ก็อยู่ในส่วนหลังนี่ด้วย

จากที่เคยเปิดเผยไปแล้ว เดโมตัวนี้จะเป็นช่วงแรกของเกม เนื้อเรื่องมีอยู่ว่ากลุ่มผู้คนกำลังโดยสารรถไฟมุ่งหน้าออกจากโลก Cocoon เพราะโดนขับไล่ออกมาหลังถูกตัดสินว่าไปมีความเกี่ยวข้องกับโลก Pulse เข้า แล้วหลังจากนั้น Lightning ก็ปรากฏตัวเมื่อผู้คนเริ่มก่อการจลาจล ในขณะเดียวกัน Snow และกลุ่มของเขาก็เริ่มออกท่าทีต่อต้านเช่นกัน

ต่อไปนี้คือสิ่งที่ผู้เล่นจะไม่ได้เห็นไม่ได้ทำในเดโมนี้ คือถึงแม้ว่า Lightning กับ Sazh จะมาด้วยกัน แต่ผู้เล่นจะไม่สามารถรับรู้ความสัมพันธ์ระหว่างตัวละคร 2 คน นี้ได้เลย จนกว่าจะไปถึงเหตุการณ์หลังจากเดโมตัวนี้ นอกจากนั้น ในเวอร์ชั่นเดโมเราจะได้เล่นเกมนี้ผ่านทางมุมมองของ Lightning กับ Snow เท่านั้น ส่วน Vanille จะต้องรอเล่นกันในเวอร์ชั่นเต็ม หลังจากผู้เล่นจบเนื้อเรื่องของตัวละครหนึ่งแล้ว เกมก็จะเปลี่ยนไปให้บังคับอีกตัวละครหนึ่งทันที แล้วเราจะได้รู้ว่าตัวละครนั้นมาทำอะไรที่นี่ อธิบายง่ายๆ ก็คือ เนื้อเรื่องจะเดินคู่ขนานกันแบบ “ในขณะเดียวกัน....” มากกว่า

ฉากที่เห็นภายในเดโมเรียกว่า Hanged Edge เป็นเส้นเขตแดนระหว่าง Cocoon และใกล้เคียงกับ Pulse มากที่สุดหากวัดจากพื้นที่อื่นๆใน Cocoon ฉากนี้เป็นฉากโทนมืด ซึ่งไม่ได้เป็นแบบนี้ทั้งหมดในโลกของ FF โดยคุณ Toriyama บอกว่าต้องเป็นฉากโทนสว่างและดูเป็นเมืองแห่งอนาคตมากกว่า

ในตอนจบของเดโมเราจะได้เห็นตัวละครใหม่อีกคนในชุดนักโทษด้วย ซึ่งคุณ Toriyama ไม่ได้บอกรายละเอียดใดๆ ใบ้แค่ว่าเธอเป็นตัวละครสำคัญมากตัวหนึ่ง

ภายในนิตยสารได้กล่าวถึงความประทับใจกับท่าทางของตัวละคร Sazh (แน่นอนครับ บรรณาธิการ Famitsu ได้ลองเดโมตัวนี้ไปเรียบร้อยแล้ว) Sazh แสดงท่าทีของความไม่คุ้นเคยการต่อสู้ได้สมจริง เช่น อาการตกใจจากแรงสะท้อนของอาวุธ และ ท่าทางแปลกๆระหว่างการต่อสู้

ส่วนสิ่งที่ทุกคนสงสัยคงจะเป็นโชโคโบะน้อยๆของ Sazh ว่าเอาไปด้วยมันไม่เป็นอะไรเหรอ ตรงนี้ยังไม่มีคำตอบครับ คุณ Toriyama บอกว่ามันอาจจะยู่กับ Sazh ตลอดเวลาแม้กระทั่งตอนสู้ด้วยก็ได้นะ และทีมพัฒนาก็ใส่ใจกับตรงนี้มากด้วย แต่มีเรื่องนึงที่ต้องคิดกัน คือ ขนฟูๆของโชโคโบะตัวนี้ถูกเรนเดอร์ออกมาด้วยคุณภาพที่สูงมากด้วย ดังนั้น ถ้าหากจะใส่ลงไปในฉากต่อสู้ด้วยก็คงจะเป็นปัญหาไม่ใช่น้อย

อีกอย่างเกี่ยวกับโชโคโบะ คือ ภายในเกมก็มีโชโคโบะตัวใหญ่ธรรมดาๆด้วย แต่จะไม่ได้ใช้เป็นพาหนะอีกแล้ว มาถึงส่วนของระบบการต่อสู้ ตรงนี้คุณ Toriyama ได้อธิบายข้อมูลต่างๆไว้หมดเปลือกเลยครับ โดยประการแรก ระบบการต่อสู้ของภาคนี้เป็นการประยุกต์รวมเข้าด้วยกันระหว่างแอ๊คชั่นกับ กลยุทธ์ เพิ่มความรวดเร็วเข้าไปในการต่อสู้แบบใส่คำสั่ง

ภายในเดโมจะไม่แสดงกลยุทธ์ทั้งหมดให้เราเห็น ครั้งนี้มีเพียงแค่กลยุทธ์การอัดคำสั่งเข้าไปเป็นชุดเท่านั้น ส่วนที่ไม่ได้อยู่ในเดโมจะเป็นกลยุทธ์ที่ใช้ประโยชน์จากเพื่อนร่วมทีม ในการต่อสู้แต่ละครั้งเราสามารถบังคับได้เพียงแค่ตัวละครเดียวเท่านั้น AI จะทำหน้าที่ควบคุมเพื่อนร่วมทีมไป อย่างไรก็ตาม พวกเขาจะมีปฏิกิริยาตอบสนองกับการกระทำของเราอย่างดี ทำให้กลยุทธ์ต่าง ๆ ในการต่อสู้เป็นไปอย่างราบรื่นและใช้อบิลิตี้ได้อย่างมี ประสิทธิภาพ เทคนิคง่ายๆที่เห็นในเดโมก็คือการเข้าไปโจมตีศัตรูทันทีหลังจากเราเสยขึ้นไป ในอากาศให้แล้ว ส่วนในเวอร์ชั่นเต็มจะหลากหลายกว่านี้ และพิเศษว่าเราสามารถเปลี่ยนการควบคุมระหว่างตัวละครได้อย่างอิสระอีกด้วย

พูดง่ายๆว่าที่จะได้ลองในเดโมมันแค่ 30% ของระบบต่อสู้แบบเสร็จสมบูรณ์เท่านั้นเอง ระบบ “Evolved ATB” (ชื่อนี้ยังไม่ใช่ชื่อสุดท้าย ชื่อจริงๆยังคงคิดกันอยู่) จะแสดงแค่ส่วนพื้นฐานให้เราเห็นเท่านั้น แน่นอน เราจะไม่มีสัตว์อสูรให้ใช้ด้วย การอัดคำสั่งก็จำกัดไว้แค่ 3 ซึ่งเกมจริงจะอัดได้มากขึ้นตามพัฒนาการของตัวละคร ตัวเต็มจะมีการเปลี่ยนแปลงเมนูคำสั่งด้วยเพื่อที่ว่าเวลามีคำสั่งให้เลือก ใช้เยอะๆจะได้ไม่ลำบาก

และ 1 อย่าง ที่ทุกคนจะต้องตกใจกับซีรี่ส์นี้ครับ คุณ Toriyama บอกว่าหลังจากจบการต่อสู้ HP ของตัวละครจะถูกเติมให้เต็มทุกครั้งครับ! นั่นหมายความว่าสู้แต่ละครั้งนี่มันยากมาก ขนาดว่าไม่ใช้หัวคิดก็คงจะไม่ชนะ

มาพูดถึงระบบ Chain กับ Break บ้างซึ่งข้อมูลที่มีอยู่ในทุกวันนี้นั้นน้อยมาก คุณ Toriyama บอกว่าเป้าหมายของ 2 ระบบ นี้คือการนำการเคลื่อนไหวต่างๆมาสร้างใหม่ให้ดูดียิ่งขึ้น อย่างที่เคยเห็นการเสยศัตรูขึ้นไปในอากาศใน 2006 E3 FFXIII Trailer

จากที่เคยเห็นกัน หลังจากที่เราโจมตีศัตรูจะปรากฏเกจขึ้นที่มุมขวาบนของหน้าจอ เกจนี้จะลดลงเรื่อยๆตามเวลา ถ้าเราโจมตีศัตรูต่อได้สำเร็จเราก็จะเชื่อมการโจมตีสำเร็จ ผลความเสียหายก็จะรุนแรงขึ้น ส่วนจะเติมเกจได้แค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับชนิดของการโจมตี เช่น การใช้เวทย์ไฟจะสามารถเติมเกจได้มาก

ในขณะเดียวกับการทำ Chain ผู้เล่นจะสร้างค่า % ของ “Bonus” ขึ้นมาด้วย ถ้าหากถึงค่าที่พอสมควรแล้ว ตัว ศัตรู ก็จะมีสีแดงกระพริบและอยู่ในสภาวะ Break ส่วนค่าที่ต้องการจะขึ้นอยู่กับชนิดของศัตรู เกจ Chain จะกลายมาเป็นเกจของ Break แทน แสดงให้เห็นว่าผู้เล่นเหลือเวลาเท่าไหร่สำหรับสภาวะ Break นี้

แน่นอนว่าความเสียหายที่ศัตรูจะได้รับนั้นมากขึ้นเป็นพิเศษด้วย รวมไปถึงเพิ่มโอกาสในการทำการโจมตีในแบบอื่นๆ เช่น การเสยศัตรูขึ้นไปในอากาศแล้วให้เพื่อนใส่คอมโบตามได้ง่ายขึ้น ในเกมเวอร์ชั่นเต็มจะมีทางเลือกมากกว่านี้ในการทำ Break ที่ต้องจดจำก่อนก็คือไม่ใช่เราฝ่ายเดียวที่ทำเขาลอยฟ้าได้ ศัตรูก็ทำกับเราได้เช่นกัน อย่างเช่น Behemoth เป็นต้น

เมื่อจบการต่อสู้ เราจะพบกับหน้าจอสรุปผลที่คอยประเมินการต่อสู้ของเราเป็นดาวตั้งแต่ 1 ถึง 5 ดวง ถ้าอยากได้ดาวเยอะ ก็ต้องสู้อย่างคนมีฝีมือและจบการต่อสู้ให้เร็วหน่อย

ระบบการให้ดาวจะมีอยู่ในเดโม ส่วนค่าคะแนนต่างๆจะยังไม่มี รอในเกมเวอร์ชั่นเต็มเอาเช่นกัน ตัวเดโมนี้ยังสนับสนุนระบบ Trophy และฟีเจอร์อื่นๆของ PS3 ด้วย แต่คุณ Toriyama ไม่ได้บอกรายละเอียดลึกลงไป ส่วน “TP Bonus” ที่เห็นกันในภาพอัพเดตชุดล่าสุดก็ยังไม่ได้พูดถึง บอกแค่ว่าเกี่ยวกับการใช้สัตว์อสูร

คุณ Toriyama ยังคงปิดเงียบเกี่ยวกับการพัฒนาของตัวละคร แต่ในภาคนี้มีการนำระบบใหม่เข้ามาใช้ (อีกแล้ว) เหมือนกับการนำระบบ Sphere Grid ของ FFX และการนำระบบ License Board ใน FFXII มาใช้

อีกหนึ่งอย่างที่ต้องรู้ไว้ก่อน คือ ไม่ใช่ว่าตัวละครทุกคนจะสามารถใช้เวทย์มนตร์ได้ มีเพียงพวก l’Cie เท่านั้นที่ใช้เวทย์มนตร์ได้ (เท่า ที่คอนเฟิร์มแล้วคือ Lightning, Snow และ Vanille) และเรายังไม่สามารถใช้เวทย์มนตร์ได้จนกว่าจะถึงจุดๆหนึ่งของเนื้อเรื่อง แต่ในเดโมใจดีหน่อยให้เราลองใช้ได้ตั้งแต่เริ่ม

คุณ Toriyama ยังกล่าวถึงการดำเนินไปของเกมก่อนการต่อสู้ด้วย เขาบอกว่าจากที่เห็นในตัวอย่างที่ผ่านๆมา ภาคนี้เรายังสามารถเห็นศัตรูได้ก่อนเข้าฉากต่อสู้ พวกศัตรูจะมีระยะในการมองเห็น ถ้าพวกมันเห็นเราก็จะเริ่มเข้ามาจู่โจม แต่ในตัวเดโมนี้ศัตรูในฉากจะคอยเข้ามาสู้กับเราเรื่อยๆ ส่วนในเกมเต็มจะยึดการมองเห็นเป็นหลัก

เมื่อเผชิญหน้ากับศัตรู จะมีความแตกต่างระหว่างเราเป็นฝ่ายถูกพบเห็นหรือศัตรูเป็นฝ่ายถูกพบเห็น ถ้าหากเราเผชิญหน้ากับศัตรูทั้งๆที่มันยังไม่เห็นเรา เราจะมีเกจเวลาที่ได้เปรียบมากกว่า

มาถึงเรื่องทางเทคนิค ในเกมนี้จะแสดงผลด้วยความละเอียด 720p กับเฟรมเรต 30 fps มีปัญหาเกมเอื่อยบ้างระหว่างต่อสู้ แต่เขาสัญญาว่าในเวอร์ชั่นเต็มจะไม่มีแน่นอน สำหรับทีวี SD ธรรมดา ทีมงานพัฒนาได้เห็นใจตรงจุดนี้และทำให้เกมสามารถรองรับตรงส่วนนี้ได้ด้วย

สุดท้าย ท้ายสุด สำหรับผู้ที่รอเกมเวอร์ชั่นเต็มอย่างใจจดใจจ่อ จากคำกล่าวของคุณ Toriyama ส่วนหลักของเกมนี้ใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว และตอนนี้ก็เป็นแค่เรื่องของการเชื่อมทุกส่วนเข้าด้วยกัน ส่วนงานฝ่ายออกแบบนั้นก็เสร็จเกือบเกลี้ยง เรายังหวังได้ว่าเกมนี้จะสามารถวางจำหน่ายทันปีนี้อย่างน้อยก็ที่ญี่ปุ่น และการวางจำหน่ายในต่างประเทศก็คงอีกไม่ไกลนัก

แต่เดี๋ยวก่อนครับ! เดโมนั่นน่ะ.... บรรณาธิการ 2 คน ของนิตยสาร Famitsu ได้ไปลองมาแล้วนะครับ พวกเขาบอกว่าเดโมนี้ใช้เวลาเล่นประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที พวกเขายังชมเกมนี้ด้วยเกี่ยวกับความรวดเร็วของตัวเกมและเวลาการโหลดที่แทบจะ เป็นศูนย์ บรรณาธิการคนนึงบอกว่าเพลงประกอบก็ “โคตรเจ๋ง” แถมยังบอกด้วยว่าเกมนี้ละเอียดขนาดเห็นตัวละครอื่นๆทำการต่อสู้ได้ในระยะที่ ไกลมากในขณะที่เรากำลังทิ้งมุ่งไปข้างหน้า ส่วนอีกคนก็บอกว่าไม่ลองเดโมตัวนี้แล้วจะเสียใจ

เดโมนี้แถมมากับแพ๊ค Limited กับ Cloud Black ของ Final Fantasy VIII Advent Children COMPLETE ด้วยนะ

Credit By : Fataris (Online-Station) ข่าววันที่ 9 April 2009